กฎข้อ 1 ก็คือห้ามติ่ง ว่าด้วยเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของศิลปิน กับ Stagehand

เกือบทุกครั้งเมื่อถูกคนรู้จักถามว่าทำงานอะไร? แล้วพวกเราเหล่ามนุษย์งานหลังเวที ตอบไปว่าทำคอนเสิร์ต! สีหน้าของคนถามจะเปลี่ยนไปในทันใด รอยยิ้มพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง แววตาที่เป็นประกายด้วยความตื่นเต้นนั้น จะตามมาด้วยคำถามว่า งั้นก็ได้เจอดาราศิลปิน คนโน้น นี้ นั้นสิ จบด้วยคำว่า น่าอิจฉาจัง!
แต่เดี๋ยวนะ...จริงอยู่เราได้เจอได้เห็นศิลปินคนดังทั้งไทยและอินเตอร์มากมายก็จริง แต่อย่าคิดว่าพวกเราจะได้กระทบไหล่ใกล้ชิด ขอลายเซ็น ถ่ายเซลฟี่อะไรแบบนั้นได้หรอกนะ เรื่องจริงคือโอกาสแบบนั้นมันไม่มี และถึงมันจะเป็นไปได้ ด้วยมารยาทและจรรยาบรรณ ความเป็นมืออาชีพมันค้ำคออยู่ ซึ่ง

ข้อแรก ที่เป็นกฎ ที่พวกเรายึดถือนั่นก็คือ “ห้ามติ่ง” ศิลปินหลังเวที








รักนะแต่ต้องไม่แสดงออก!! แน่นอน มันต้องมีซักคอนเสิร์ตที่มีโอกาสได้เจอกับศิลปินที่เราติ่งในสถานะที่เราเป็นคนทำงาน ความรู้สึกมันเป็นอย่างไร อธิบายง่ายๆเหมือนคนรักนะ แต่ไม่กล้าแสดงออก เขาเดินผ่านเราก็ต้องทำเฉยๆ ไม่ได้พูดคุย ไม่สบตา ไม่ได้ยิ้มให้ เวลาได้ดูพวกเขาซ้อมหรือโชว์บนเวทีตอนซ้อมก็ต้องนั่งนิ่งหรือปฏิบัติหน้าที่ไปโดยที่ไม่มีโอกาสซึมซับบรรยากาศหรือปลดปล่อยพลังติ่งในตัวเหมือนแฟนๆ ที่ซื้อบัตรมาดู



นอกจากจะแสดงออกไม่ได้แล้ว ยังต้องคอยช่วยสอดส่องบุคคลแปลกปลอมที่อาจไม่ประสงค์ดี ซึ่งในบางครั้งพวกนี้ก็เซียนมากห้อยบัตร Staff ใส่เสื้อ Staff เหมือนของทีมงานเป๊ะ ทำตีเนียนมาเดินเล่นหลังเวที ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร มาด้วยเหตุผลใด

แต่หากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เช่น ของหาย หรือมีรูปที่ไม่เหมาะสมหลุดออกไป นั่นหมายความว่าเราอาจกลายเป็นประเทศที่ติดแบล็กลิสต์ และเขาอาจไม่มาเล่นคอนเสิร์ตที่บ้านเราอีกต่อไป

ช่วงเวลาที่มนุษย์งานอย่างเราจะได้เจอได้มองเห็นศิลปินใกล้ๆ นั้นน้อยมากเพราะจะเป็นแค่การเดินผ่านในที่มืดๆ จากรถไปห้องพัก จากห้องพักถึงเวที อยากเห็นแบบใกล้ชิด ยกมือถือถ่ายรูปได้ กรี๊ดให้สุดเสียง บอกตรงๆ ซื้อบัตรคอนฯ ดีกว่ามาเป็นทีมงาน แต่สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้จากการเป็นติ่งที่ทำงานหลังเวที คือมันมีความสุขใจ

เมื่อทำงานในวงการนี้นานๆ ความเป็นมืออาชีพจะสอนให้รู้ว่า Privacy หรือความเป็นส่วนตัวของศิลปิน คือความรักรูปแบบนึงที่เราสามารถมอบให้กับพวกเขาได้เช่นกัน



เก็บตกหลังเวทีที่หลายคนอาจไม่รู้



- การซาวน์เช็คคอนเสิร์ตฝรั่งเกือบทั้งหมดไม่มีการซ้อม เค้าเป๊ะมาแล้ว อย่างมากก็มีซาวน์เช็ค 3-4 เพลง ซึ่งศิลปินอาจมาหรือไม่มาก็ได้ และบางครั้งก็จะไม่อนุญาตให้ทีมงานอื่นที่ไม่ใช่ของศิลปินอยู่ในฮอลล์ด้วย


- บัตร Staff แบบ All Area ก็ไม่ได้แปลว่าจะไปอยู่ตรงไหนก็ได้เสมอไป

โซนที่ต้องใกล้ชิดกับศิลปินจริงๆ เช่น ห้องแต่งตัว หรือบนเวที จะต้องมีบัตรหรือริสแบนด์พิเศษที่ออกให้โดยทีมงานของศิลปิน โดยจำกัดจำนวนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น


- การถ่ายรูปศิลปิน ห้ามถ่ายรูปศิลปิน (นอกจากศิลปินเรียกมาถ่ายด้วย) หรือถ้าถ่ายภาพกว้างจากงานได้ ก็ห้ามโพสต์ลงในสื่อโซเชี่ยลทันที ต้องลงรูปหลังจบงานเท่านั้น